หน้าเว็บ

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40. 

1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด
 
2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก พอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน
 
3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็อย่าหลอกตัวเอง
 
4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่า และสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"
 
5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป
 
6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด
 
7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว
 
8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน
 
9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้ว่า วันหนึ่ง เขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้
 
10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้
 
11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้
 
12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ
 
13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์
 
14. สร้างเนื้อ สร้างตัวให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก
 
15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม 

16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน
 
17. การมีแฟน หรือสามีภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็น พ่อแม่ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ
 
18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้
 
19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่าง งานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
 
20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอมตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป

20 ข้อ ที่ควรรู้และปฏิบัติก่อนอายุ 40.

          1. ไม่ต้องตั้งใจเรียนมากไป เอาแค่พอใช้ได้ก็พอ เพราะโลกแห่งความเป็นจริง วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ที่เกรด

2. การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญมาก พอๆ กับการคร่ำเคร่งหน้าตำราเรียน

3. เลือกงานที่เราชอบนั้นใช่ แต่อย่าลืมด้วยว่า อาชีพนั้นสามารถเลี้ยงดูตัวเราได้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็อย่าหลอกตัวเอง

4. เมื่อถึงวัยทำงาน ใครเก็บเงินก่อน รวยเร็วกว่า และสิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ คือ "ชีวิตที่ไม่มีหนี้ คือชีวิตที่ประเสริฐที่สุด"

5. หาเป้าหมายในชีวิตให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะมันจะเป็นเครื่องนำทางของคุณ ในชาตินี้ตลอดไป

6. ซื้อบ้านก่อน ที่จะซื้อรถ เพราะบ้านมีแต่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถมีแต่มูลค่าลดลง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า รถ=ลด

7. ดอกเบี้ยบ้านนั้นมหาโหดมาก รีบใช้ให้หมดโดยเร็วพลัน ก่อนที่จะแก่ แล้วผ่อนไม่ไหว

8. การเก็บเงินเป็นแค่บันไดขั้นแรก สู่ความร่ำรวย แต่ขั้นต่อมา คือ ต้องรู้จักลงทุน

9. อย่าเป็นศัตรูกับใครก็ตามบนโลกใบนี้ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้ว่า วันหนึ่ง เขาอาจจะยิ่งใหญ่มาก จนกลับมาทำร้ายคุณก็เป็นได้

10. คอนเน็คชั่นหรือสายสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็สู้การมีเพื่อนเยอะไม่ได้

11. ควรมีงานทำมากกว่า 1 งาน เพราะความมั่นคง ไม่เคยมีบนโลกใบนี้

12. อย่าคิดว่าตัวเองทำอะไรได้แค่อย่างเดียว เพราะความสามารถของคนเรา มีมากกว่า 1 เสมอ

13. เมื่อมีโอกาสใดก็ตามเข้ามา จงอย่าปฏิเสธ ถึงจะล้มเหลว แต่มันก็คือ ประสบการณ์

14. สร้างเนื้อ สร้างตัวให้ได้เร็วที่สุด ในขณะที่คุณยังมีกำลัง ยังเป็นหนุ่ม-สาว เพราะการฝ่าฟันอุปสรรคในช่วงอายุมาก ไม่ใช่เรื่องสนุก

15. ออกเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ยังหนุ่มสาว เพราะเมื่อมีครอบครัว การเดินทางจะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าเดิม

16. เลือกคู่ชีวิต จงคิดให้ดีๆ อย่าดูแต่ข้อดีของเขา แต่ต้องดูด้วยว่าเราสามารถรับข้อเสียของเขาได้มากแค่ไหน

17. การมีแฟน หรือสามีภรรยา ยังเลิกกันได้ แต่ความเป็น พ่อแม่ลูก นั้นเลิกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น ควรดูแลพวกเขาให้ดีๆ

18. ความสำเร็จที่มากมายแค่ไหน ก็ไม่สามารถทดแทนความล้มเหลวของครอบครัวได้

19. ลองหาเวลาอยู่ว่างๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดูบ้าง อย่าแบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว และอีกอย่าง งานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต

20. สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่ง โปรดถนอมตัวเองให้มาก เมื่อยังเป็นวัยรุ่น อย่าใช้ชีวิตให้หนักเกินไป

หลักคิด 20 ข้อ มองโลกแห่งความจริง!!


มหัศจรรย์แห่งชีวิต… หลักคิด 20 ข้อ จากท่าน ว.วชิรเมธี




๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน ?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ
๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี ?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง
๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี ?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข
๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน ?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน
๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา ?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง
๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา
๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้
๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี ?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ
๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร ?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา
๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี ?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่
๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย ?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย
๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม ?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า
๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน ?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน
๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ
๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง
๑๖. สวดมนต์บทไหนดี ?
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง
๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี ?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด
๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก ?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน
๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม ?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน
๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบ

มาฝึกนิสัยรักการอ่านกันเถอะ!! *_*


12 วิธี ในการฝึกนิสัยให้รักการอ่าน

12 วิธี ในการฝึกนิสัยให้รักการอ่าน หนังสือ book
12 วิธี ในการฝึกนิสัยให้รักการอ่าน
จัดระเบียบเวลา
1. วางแผนเวลา เราควรวางแผนไว้ว่าจะอ่านหนังสืออย่างน้อยครั้งละ 5-10 นาที ทำให้เป็นนิสัย
หรือ จะอ่านหนังสือ  ระหว่าง พักทานอาหาร ไม่ว่าจะเช้า กลางวัน หรือเย็น รวมทั้งก่อนนอน เท่ากับ
คุณมีเวลา ประมาณ 20 - 40 นาทีใน การอ่านหนังสือ
พกหนังสือติดตัว
2. พกหนังสือไว้ติดตัวตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน ก่อนออกจากบ้าน ไปออฟฟิศ  ไปเรียน
นัดเจอเพื่อนซี้  ทำธุระ  ไปหาหมอฟัน ฯลฯ เวลาว่างหรือนั่งรอ ก็หยิบหนังสือออกมาอ่านได้เสมอ
ทำรายการหนังสือ
3. จัดทำลิสต์รายการหนังสือ เก็บรายการหนังสือดีๆ ทั้งหมดที่ต้องการจะอ่านเอาไว้   แล้วบันทึก
ลงในสมุดบันทึกประจำวันหรือในโฮมเพจส่วนตัวก็ได้ พออ่านเสร็จ ก็ขีดฆ่าเล่มที่เราอ่านแล้ว
บันทึกเหตุการณ์
4. เก็บบันทึกเหตุการณ์ เหมือนกับลิสต์รายการอ่านหนังสือ แต่เพิ่มรายละเอียด วันที่เริ่มอ่าน
และวันที่อ่านจบ ถ้าจะให้ดีควรบันทึกสิ่งที่เราคิดเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นๆ ไว้ด้วย
สถานที่เงียบๆ
5. หาสถานที่เงียบๆ อาจจะเป็นภายในบ้าน ที่เรารู้สึกสบายไปกับหนังสือดีๆ ได้ โดยปราศจาก
การรบกวนหรือถูกขัดจังหวะ ไม่ควรมีโทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เราไขว้เขวได้
และต้องไม่มีเพลง หรือสมาชิกใน ครอบครัวเพื่อนที่ส่งเสียงดัง แต่ถ้าไม่มีสถานที่แบบนี้ ลองหา
ร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือสวนสาธารณะที่เงียบๆ ลมเย็นๆ ก็ได้
ลดการดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต
6. ลดการดูทีวี หรือเล่นอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณต้องการอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ ลองลดการดูทีวี
หรือเล่นอินเตอร์เน็ตลงแม้จะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับหลายๆ คนก็ตาม
วันแห่งห้องสมุด
7. มีวันแห่งห้องสมุด เดินทางให้เป็นนิสัย นอกจากจะสามารถหยิบหนังสือของเราติดมือไปอ่าน
ได้แบบเงียบๆสบายๆ แล้ว ยังมีหนังสือน่าอ่านตั้งมากมาย พร้อมกับบรรยากาศเงียบๆแล้ว ยังได้
อ่านหนังสือฟรีอีกด้วย
อ่านหนังสือสนุก
8. อ่านหนังสือที่สนุกๆ จะกระตุ้นความสนใจให้กับเราได้ หาหนังสือที่คุณสนใจ แม้ว่าจะไม่ใช่
วรรณกรรมระดับมาสเตอร์พีซ แต่ทำให้เราอยากอ่าน แค่นั้นก็พอแล้ว หลังจากนั้น เราก็สามารถ
เปลี่ยนไปอ่านอะไรที่มันยากขึ้นได้ แต่ตอนนี้หาสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสนุก และสนใจดีกว่า
การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เพลิดเพลิน
9. ทำให้การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่ให้ความเพลิดเพลิน ทำให้การอ่านเป็น ช่วงเวลาที่น่า
โปรดปรานอย่างเช่นจิบชาดีๆ หรือ จิบกาแฟในช่วงเวลาที่อ่านหนังสือ มีเก้าอี้ที่แสนสบาย
หรือจะเลือกช่วงเวลาระหว่างที่พระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก จะช่วยสร้างบรรยากาศให้
เพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี
บันทึกใน Blog
10. บันทึกเรื่องราวการอ่านหนังสือลงไปใน Blog เป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่ดีที่สุด ในการสร้าง
นิสัยการอ่าน คือการบันทึกเรื่องราวลงใน Blog Hi5, Facebook, Multiply หรืออื่นๆ นอกจากสามารถ
อธิบายความคิดเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นๆ ได้แล้วคนอื่นๆ ยังสามารถแสดความคิดความเห็น ให้
คำแนะนำเราเกี่ยวกับหนังสือที่เราอ่าน ได้อีกด้วย
วางเป้าหมาย
11. วางเป้าหมายสูงสุด บอกตัวเองว่า เราต้องการอ่านหนังสือจำนวนกี่ เล่มในปีนี้!! และทำเป้าหมาย
ที่ตั้งไว้ให้สำเร็จแต่ต้องแน่ใจว่าเราจะยังคงสนุกกับการอ่านอยู่
ชั่วโมงแห่งการอ่าน
12. มีชั่วโมงการอ่าน หรือวันแห่งการอ่าน เราสามารถวางแผนใช้เวลาร่วมกัน ในครอบครัวให้พวก
เขาเหล่านั้นร่วมกับเราอ่านหนังสือได้ ก็จะได้ความสนุกไปอีกแบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก 
http://www.lifehack.org

http://www.krabork.com

วีธีการลดน้ำหนัก ใครสนเชิญดูทางนี้จ้า!!



สูตรลดน้ำหนัก สูตรที่ 1: สูตรลดน้ำหนัก ของสมเด็จพระเทพฯ

         เป็นสูตรลดน้ำหนัก 7 วัน ค่ะ โดยก่อนรับประทานอาหาร ให้ดื่มน้ำก่อน 2 แก้ว และจัดอาหารแต่ละมื้อ ดังนี้

 วันที่ 1

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้ หรือโยเกริต์
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
          มื้อเย็น : สลัดผัก

 วันที่ 2

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
          มื้อเย็น : โยเกิรต์

 วันที่ 3

          มื้อเช้า : โยเกิรต์หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
          มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

 วันที่ 4

          มื้อเช้า : ขนมปัง 1 แผ่น น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
          มื้อเย็น : โยเกิรต์

 วันที่ 5

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
          มื้อเย็น : สลัดผัก

 วันที่ 6

          มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
          มื้อกลางวัน : ปลานึ่งหรือปลาเผา
          มื้อเย็น : นมสด

 วันที่ 7

          มื้อเช้า : ข้าวสวย 1 ทัพพี และหมูย่าง 1 ชิ้น หรือ ข้าวสวย 1 ทัพพี และไข่ต้ม 1 ลูก
          มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
          มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

         ส่วนวันที่แปด มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น สามารถรับประทานอาหารอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักต่อให้เริ่มรับประทานเหมือนที่ทำตั้งแต่วันแรกค่ะ

ดื่มน้ำ
 สูตรลดน้ำหนัก สูตรที่ 2  : สูตรลดน้ำหนัก 3 วัน

         โดยทั้งสามวัน คุณสาว ๆ ต้องดื่มน้ำ 2 แก้ว ก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อค่ะ และต้องรับประทานอาหารดังนี้

 วันที่ 1  

         ตื่นมา ถ่ายให้หมด และ ดื่มน้ำสะอาด  1 ลิตร
          มื้อเช้า : ขนมปังปิ้งจนแห้ง + ส้มขนาดกลางหวานไม่มาก + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อกลางวัน : ไอศกรีม รสวนิลา 1 ลูก +แครอท น้ำบุรูท ประมาณ 50 กรัม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อเย็น : ปลาทูน่า + มะเขือเทศ สีดา 1 ผล + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล

 วันที่ 2
        
          มื้อเช้า :แก้วมังกร + แฮม 2 แผ่น + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อกลางวัน :ไข่ต้มกินไข่ขาว + ถั่วฝักยาว ต้ม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อเย็น : ผักกาดต้ม + แคนตาลูบ ต้ม + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล

 วันที่ 3

          มื้อเช้า : ปลาทูน่า + ส้มเขียวหวาน ขนาดเล็ก 1 ผล + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อกลางวัน :แกงส้ม กินแต่ผัก + กินเปลือกกุ้ง + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล
          มื้อเย็น : ขนมปังปิ้งจนแห้ง + ลูกพรุนแห้ง 2 ผล + ดื่มชา หรือกาแฟ ไม่มีน้ำตาล

         ระหว่างนี้ห้ามทานของมัน หรือของทอดเด็ดขาด หลังจากรับประทานครบ 3 วันแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ

สูตรลดน้ำหนัก สูตรที่ 3: สูตรลดน้ำหนัก 3 วัน

         นี่ก็เป็นสูตรลดน้ำหนัก 3 วัน อีกเช่นกัน สำหรับสาวใจร้อน อยากลดน้ำหนักเร็ว ๆ โดยทั้งสามวัน คุณสาว ๆ ต้องรับประทานอาหารดังนี้

 วันที่ 1

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ส้มโอ 1/2 ผล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ถั่วเหลืองในซอสมะเขือเทศ
          มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ปลาทูน่า 4 ออนซ์ (ประมาณ 115 กรัม)  ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
          มื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น ถั่วฝักยาวต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์
   
 วันที่ 2

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1/2 ผล
          มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Coltage Cheese (คล้ายโยเกิร์ต) 120 กรัม
          มื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น บร็อคคอลรี่ต้ม 4 ออนซ์ แครอทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ กล้วยหอม 1/2 ผล
   
 วันที่ 3

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Cheddar Cheese 1 แผ่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล
          มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง
          มื้อเย็น : ปลาทูน่า 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ ดอกกระหล่ำต้ม 4 ออนซ์ แคนตาลูป 1/2 ผล

หมายเหตุ

          1. ขนมปังปิ้งต้องปิ้งจนแห้ง ห้ามทาเนยหรือมาการีน
          2. แคร๊กเกอร์ต้องเป็นรสเค็ม
          3. ปลาทูน่าและถั่วฝักยาวสามารถแช่แข็งได้
          4. อาหารชุดนี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีซึ่งกันและกัน และพิสูจน์ได้

ข้อห้าม

          1. ห้ามเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนอาหารอื่น ห้ามใช้เครื่องปรุงอื่น นอกจากเกลือและพริกไทย
          2. รายการใดที่ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ให้ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม

         สูตรอาหารนี้ให้ใช้ติดต่อกัน 3 วัน ภายใน 3 วัน ควรลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัม หลังจาก 3 วัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติค่ะ

ลดน้ำหนัก

 สูตรลดน้ำหนัก สูตรที่ 4 : สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน

         สาว ๆ ที่สนใจ สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน ควรจัดอาหารรับประทานดังนี้

 วันที่ 1

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับผักต้ม
          มื้อเย็น : สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้

 วันที่ 2
          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
          มื้อกลางวัน : สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้ กับสลัดผักเขียวและผลไม้
          มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

 วันที่ 3

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับแครอท
          มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

 วันที่ 4

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
          มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม
          มื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

 วันที่ 5
          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
          มื้อกลางวัน : ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
          มื้อเย็น : สเต็ก หรือเนื้อย่างไม่ติดมัน กับสลัดผักสดน้ำใส

 วันที่ 6

          มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
          มื้อกลางวัน : ไก่ย่างไม่ติดหนัง
          มื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับแครอทต้ม

 วันที่ 7

          มื้อเช้า : กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
          มื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการ
          มื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

วิธีลดความอ้วน